วงการอุตสาหกรรมในปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าค่อนข้างเข้มข้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่เปลี่ยนถ่ายจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น และใช้ในธุรกิจอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้ในการขนส่งโลจิสติกส์ , หุ่นยนต์ AI ผลิตสินค้าแทนมนุษย์ เป็นต้น ในปีนี้ 2567 ก็มีแนวโน้มว่าวงการอุตสาหกรรมจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมไทยและอุตสาหกรรมโลก วันนี้เราจึงมีข่าวสารดีๆ ในวงการอุตสาหกรรม มาอัพเดทให้ทุกท่านด้วย
อุตสาหกรรมในประเทศไทย
เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีต้อนรับต้อนปีใหม่ ในวงการอุตสาหกรรมไทยกันไปเลย โดยนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกมาเผยว่า จะมี การยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการในโรงงาน: นโยบายปี 2567
ประจำปี 2567, นโยบายการสนับสนุนกิจกรรมอุตสาหกรรมไทยได้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกับโรงงานประเภทที่ 2 และ 3 ของผู้ประกอบกิจการในประเทศ ดังนี้:
- ค่าธรรมเนียมรายปี: การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีถูกให้แก่โรงงานประเภทที่ 2 และ 3 โดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมในปี 2567.
- ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาต: การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบแทนใบอนุญาตมอก. ฉบับละ 3,000 บาท สำหรับโรงงานประเภทที่ 2 และ 3.
- ค่าธรรมเนียมใบรับรอง หน่วยตรวจสอบและรับรอง: การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรอง หน่วยตรวจสอบและรับรองมอก. ฉบับละ 10,000 บาท.
- ค่าขอใบรับรอง: การยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอใบรับรองมอก. ฉบับละ 1,000 บาท.
นอกจากนี้, ยังมีการให้สินเชื่อเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ดีพร้อม (DIPROM PAY) ที่มีเงื่อนไขดังนี้:
- วงเงินสินเชื่อสูงสุด: 2 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป.
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด: 5 ปี.
นอกจากนี้, ยังมีสินเชื่อธุรกิจอื่น ๆ ที่มีเงื่อนไขดังนี้:
- วงเงินสินเชื่อสูงสุด: 5 ล้านบาท สำหรับธุรกิจทั่วไป.
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด: 10 ปี.
สินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ให้ไปทางด้านสิ่งแวดล้อมมีเงื่อนไขดังนี้:
- วงเงินสินเชื่อสูงสุด: 5 ล้านบาท.
- ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด: 7 ปี.
ด้วยนโยบายที่เน้นการสนับสนุนและลดภาระต้นทุนสำหรับธุรกิจ, การยกเว้นค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขสินเชื่อที่ยืดหยุ่น, การสนับสนุนกำลังภาคี, ปี 2567 จึงเป็นปีที่สำคัญสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย
อุตสาหกรรมโลก คาดว่าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกจะเติบโตได้ต่อเนื่อง
การคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกจะเติบโตต่อเนื่องไป ได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยหลายประการ โดยมีผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทย ซึ่งเชื่อมโยงกับความต้องการใช้งานพลาสติกที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ใช้พลาสติกเป็นวัสดุหลัก
ทั้งนี้ ภาครัฐยังได้มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการพัฒนาและการนวัตกรรมในอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ ความต้องการที่มากขึ้นจากอุตสาหกรรมปลายทางในการใช้งานพลาสติกเพิ่มมากขึ้น เช่น การใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จะต้องเผชิญกับความแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในบางประเภทของผลิตภัณฑ์พลาสติก ทั้งนี้ หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยได้ทำการลดการใช้พลาสติกที่มีความเข้มข้นมากขึ้น และเน้นการใช้พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และส่งเสริมการใช้พลาสติกที่มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อม
การเพิ่มภาระต้นทุนในการผลิตพลาสติกก็เป็นที่ท้าทายสำคัญ เนื่องจากมีความผันผวนของราคาน้ำมันดิบที่มีผลต่อต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ การบริหารจัดการสต็อกวัตถุดิบ การขาย และการจัดจำหน่ายก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาอัตรากำไรให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ต่อเนื่องไป