การจัดการมลพิษทางอากาศของสมาคมยุโรป (EU) มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายด้าน โดยมีการดำเนินนโยบายที่เน้นการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศและสนับสนุนทรัพยากรพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้
- การลดการปล่อยมลพิษ: นโยบายที่เน้นการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศมีผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้แหล่งพลังงานที่สร้างมลพิษมาก เช่น ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีการส่งออกมลพิษมาก การกำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยมลพิษ
- พลังงานทดแทน: การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานจากแหล่งทดแทนที่ไม่ผลิตมลพิษทางอากาศ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และลม มีผลต่อธุรกิจในด้านพลังงานทดแทน และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- นวัตกรรมเทคโนโลยี: การตั้งเป้าหมายในการลดมลพิษทางอากาศส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยมลพิษ เนื่องจากนั้น ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอาจได้รับประโยชน์
- การปรับตัวของธุรกิจ: บางธุรกิจอาจต้องปรับตัวหรือดำเนินกิจกรรมที่มีการกระทำที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทางที่ดีกว่า เพื่อประสิทธิภาพในการประกอบการ และเพื่อประโยชน์ในทางระยะยาว
- ความรับผิดชอบสังคม (CSR): ธุรกิจที่มีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบสังคมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม มีโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคและความเข้าใจทางการตลาดมากขึ้น
การจัดการมลพิษทางอากาศของEU จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในทางลบและบวก ซึ่งต่อไปนี้จะขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจแต่ละแบรนด์มีความพร้อมที่จะปรับตัวและนำเสนอสินค้าบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่